วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

แนวทางในการประกอบอาชีพ

1. อาชีพด้านราชการ ตัวอย่างเช่น นักวิชาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

2. อาชีพด้านรัฐวิสาหกิจ ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ดูแลระบบเครือข่าย วิศวกรที่ปรึกษา เป็นต้น


3. อาชีพด้านบริษัทเอกชน ตัวอย่างเช่น นักโปรแกรม ผู้จัดการโครงการคอมพิวเตอร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ ผู้จัดการซอฟต์แวร์ เป็นต้น

หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ชั้นปีที่ 1 (เรียนร่วมกันทุกสาขาวิชา)

รหัสรายวิชาชื่อวิชาจำนวนหน่วยกิตรหัสรายวิชาชื่อวิชาจำนวนหน่วยกิต
ภาคการศึกษาที่ 1ภาคการศึกษาที่ 2
2103106
ENG DRAWING
3
2100111
EXPL ENG WORLD
3
การเขียนแบบวิศวกรรมท่องโลกวิศวกรรม
2301107
CALCULUS I
3
2109101
ENG MATERIALS
3
แคลคูลัส 1วัสดุวิศวกรรม
2302127
GEN CHEM
3
2110101
COMP PROG
3
เคมีทั่วไปการทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์
2302163
GEN CHEM LAB
1
2301108
CALCULUS II
3
ปฏิบัติการเคมีทั่วไปแคลคูลัส 2
2304107
GEN PHYS I
3
2304108
GEN PHYS II
3
ฟิสิกส์ทั่วไป 1ฟิสิกส์ทั่วไป 2
2304183
GEN PHYS LAB I
1
2304184
GEN PHYS LAB II
1
ปฏิบัติการฟิสิกส์ทั่วไป 1ปฏิบัติการฟิสิกส์ทั่วไป 2
5500111
EXP ENG I
3
5500112
EXP ENG II
3
ภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนรู้ในชีวิตจริง 1ภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนรู้ในชีวิตจริง 2
รวม
17
รวม
19
หมายเหตุ: นิสิตบางคน อาจเรียนรายวิชา EXPL ENG WORLD, ENG MATERIALS และ COMP PROG ในภาคการศึกษาที่ 1 แทนรายวิชา ENG DRAWING, GEN CHEM และ GEN CHEM LAB ขึ้นอยู่กับกลุ่มรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษานั้นๆ

ชั้นปีที่ 2 – 4

รหัสรายวิชาชื่อวิชาจำนวนหน่วยกิตรหัสรายวิชาชื่อวิชาจำนวนหน่วยกิต
ภาคการศึกษาที่ 3ภาคการศึกษาที่ 4
2110200
DISCRETE STRUC
3
2110201
COMP ENG MATH
3
โครงสร้างดิสครีตคณิตศาสตร์วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
2110215
PROG METH I
3
2110211
INTRO DATA STRUCT
3
วิธีวิทยาการทำโปรแกรม 1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูล
2110221
COMP ENG ESS
3
2110254
DIG DESIGN VER
3
แก่นวิศวกรรมคอมพิวเตอร์การออกแบบและการทวนสอบดิจิตอล
2110251
DIG COMP LOGIC
3
2110265
DIG DESIGN LAB I
1
ตรรกศาสตร์ของดิจิตอลคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการออกแบบและการทวนสอบดิจิตอล 1
2110253
COMP ELEC INTF
3
2603284
STAT PHYS SCIENCE
3
อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อสถิติสำหรับวิทยาศาสตร์กายภาพ
2110263
DIG LOGIC LAB I
1
5500208
COM PRES SKIL
3
การปฏิบัติการทางตรรกศาสตร์ของดิจิตอลคอมพิวเตอร์ 1ทักษะการสื่อสารและการนำเสนอผลงาน
xxxxxxx
GENERAL EDUCATION
3
xxxxxxx
GENERAL EDUCATION
3
วิชาศึกษาทั่วไปวิชาศึกษาทั่วไป
รวม
19
รวม
19
ภาคการศึกษาที่ 5ภาคการศึกษาที่ 6
2110313
OS SYS PROG
3
2110318
DIS SYS ESSEN
1
ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมระบบหลักการของระบบกระจาย
2110316
PROG LANG PRIN
3
2110332
SYS ANAL DESIGN
3
หลักการของภาษาการทำโปรแกรมการวิเคราะห์และการออกแบบระบบ
2110327
ALGORITHM DESIGN
3
2110422
DB MGT SYS DESIGN
3
การออกแบบอัลกอริทึมการออกแบบระบบการจัดการฐานข้อมูล
2110352
COMP SYS ARCH
3
2110471
COMP NETWORK I
3
สถาปัตยกรรมระบบคอมพิวเตอร์ข่ายงานคอมพิวเตอร์ 1
2110363
HW SYN LAB I
1
2110xxx
APPROVED ELECTIVES
3
ปฏิบัติการสังเคราะห์ฮาร์ดแวร์ 1วิชาเลือก
xxxxxxx
GENERAL EDUCATION
3
5500308
TECH WRIT ENG
3
วิชาศึกษาทั่วไปการเขียนภาษาอังกฤษเทคนิคสำหรับวิศวกรรมศาสตร์
xxxxxxx
GENERAL EDUCATION
3
วิชาศึกษาทั่วไป
รวม
16
รวม
19
ภาคฤดูร้อน
2100301
ENGINEERING PRACTICE
2
การฝึกงานวิศวกรรม
ภาคการศึกษาที่ 7ภาคการศึกษาที่ 8
2110355
FORM LANG/AUTO
3
2110499
COMP ENG PROJECT
3
ภาษาฟอร์มอลและทฤษฎีออโตมาตาโครงการวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
2110423
SOFTWARE ENG
3
2110xxx
APPROVED ELECTIVES
9
วิศวกรรมซอฟต์แวร์วิชาเลือก
2110490
COMP ENG PRE-PROJ
1
xxxxxxx
FREE ELECTIVES
3
โครงการวิศวกรรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานวิชาเลือกเสรี
2110xxx
APPROVED ELECTIVES
6
วิชาเลือก
xxxxxxx
FREE ELECTIVES
3
วิชาเลือกเสรี
รวม
16
รวม
15
รวมจำนวนหน่วยกิตทั้งหมดตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 142 หน่วยกิต

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

อยากสอบเข้าวิศวกรรมศาสตร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

      หากพูดถึงคณะที่น้องๆ ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝัน..วิศวกรรมศาสตร์ คงเป็นคณะในอันดับต้นๆ วันนี้มีเคล็ดลับการเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์มาฝากให้ทุกคนได้เตรียมฝึกไว้ เคล็ดลับนี้ขอบอกว่าพิเศษสุดๆ เพราะออกจากปากอาจารย์ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการวิศวกรรมศาสตร์จากรั้วมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว
       
       ทั้งนี้ เราได้รับคำแนะนำดีๆ จากดร.ณัฐวัฒน์ จุฑารัตน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และอาจารย์ ชินเทพ เพ็ญชาติ หัวหน้าภาควิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผศ.ดร.ก่อเกียรติ บุญชูสกุล ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ ผศ.ดร.ศุภวุฒิ จันทรานุวัฒน์ อาจารย์ ประจำสาขาวิศวกรรมยานยนต์ จากรั้วจุฬาลงกรณ์ มาบอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมา และทำอย่างไรถึงจะได้เรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์
       
       เริ่มต้นที่การเตรียมตัวอย่างไรในการเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากคำแนะนำของดร.ณัฐวัฒน์ จุฑารัตน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถึงจุดเริ่มต้นของการเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์
       
       “สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับคนที่อยากเรียนวิศวฯ ต้องชอบคำนวณ อาจจะไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องไม่เกลียดเลข บางคนเห็นออกแบบดีไซน์ตึกสูงๆ แล้วเกิดความชอบขึ้นมาก็มาต้องเรียนวิศวฯโยธา หรือติดใจโรงงาน หุ่นยนต์ แมคคานิก ต้องเลือกเรียนเมคคาทรอนิกส์ ถ้าออกแบบเครื่องจักรกล สนใจรถยนต์ ก็ต้องเรียนวิศวฯยานยนต์ บางคนไม่ทราบว่าตัวเองชอบอะไร บางคนตามเพื่อน ตามคุณพ่อ คุณแม่ ไม่ถนัดจริงๆก็เรียนได้ไม่ดี ต้องหัดสังเกตตัวเอง และที่สำคัญถ้าอยากเรียนวิศวฯต้องเป็นคนคิดเป็นทำเป็น กระตือรือร้นอยู่ตลอด”
       
       ทั้งนี้ ดร.ณัฐวัฒน์ เปิดเผยถึงสาขาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคณะวิศวกรรมศาสตร์ “คงต้องยกให้ภาควิชาไฟฟ้ากับเครื่องกล ซึ่งไฟฟ้ามีแยกเป็นสาขาย่อย ไฟฟ้ากำลัง ไฟฟ้าอิเลกทรอนิค และโทรคมนาคม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในโลกไอทีได้ ซึ่งสาขาไฟฟ้าถือว่าเป็นสาขาที่ยากกว่าสาขาอื่นๆ
       
       ช่วงนี้เศรษฐกิจขาลง ทำให้สายงานวิศวฯ ไม่ค่อยเป็นที่สนใจมากนักบูม แต่จริงๆแล้วความต้องการวิศวกรยังมีอยู่ตลอดในการพัฒนาประเทศ ทั้งไฟฟ้า เครื่องกล งานก่อสร้างตอนนี้ แต่ วิศวกรเป็นอาชีพที่ยังสามารถมีงานตลอด”

       
       ถัดมาที่คำแนะนำจาก ผศ.ดร.ก่อเกียรติ บุญชูสกุล ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ กล่าวถึงสาขาวิศวกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรของภาควิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักเรียนและนิสิตอยู่ในขณะนี้ และคณะวิศวฯ ได้เปิดสาขาวิศวกรรมยานยนต์มาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว
       
       “จุดเริ่มต้นมาจากภาคอุตสาหกรรม มีความต้องการวิศวกรที่ศึกษามาทางด้านยานยนต์โดยตรง คณะวิศวกรรมศาสตร์จึงเปิดสอนวิชาเกี่ยวกับชิ้นส่วนและการประกอบยานยนต์ในชื่อวิชา Automotive Engineering โดยในช่วงนั้นได้รับความร่วมมือจากบริษัทโตโยต้าประเทศไทย ส่งบุคลากรมาร่วมสอนด้วย"
       

       "หลังจากสอนไปได้สักระยะหนึ่งจึงเปิดเป็นหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ โดยอยู่ในความดูแลของภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล เน้นให้บัณฑิตที่จบไปทำงานในส่วนของการประกอบยานยนต์” ผศ.ดร.ก่อเกียรติ กล่าว
       
       ส่วนหลังจบการศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์แล้ว บัณฑิตจะทำงานเฉพาะทางด้านเกี่ยวกับรถยนต์เพียงอย่างเดียวหรือไม่นั้น อาจารย์ชินเทพ เพ็ญชาติ หัวหน้าภาควิศวกรรมเครื่องกล กล่าวว่าไม่จำเป็น หากแต่สามารถที่จะทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกลได้ทุกประเภท
       
       “คนที่จะเรียนสาขาวิศวกรรมยานยนต์นี้ จะเลือกได้ตอนที่จะขึ้นชั้นปีที่สอง โดยทางคณะจะเลือกจากจากคะแนนเฉลี่ยปี 1 นั่นหมายความว่านิสิตจะต้องมีความตั้งใจ และตัวนิสิตเองจะต้องรู้ถึงขีดความสามารถและความสนใจของตัวเองด้วยว่าเหมาะที่จะเรียนทางด้านยานยนต์นี้หรือไม่ เเล้วทางสาขาวิชาสามารถรับนิสิตได้เพียง 15 คน เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ อุปกรณ์การเรียน”
       
       อ.ชินเทพ อธิบายว่าบางรายวิชานิสิตสาขาวิศวกรรมยานยนต์ต้องไปเรียนร่วมกับคณะอื่น "เรามีข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ เรื่องของสถานที่ ทำให้สาขานี้รับผู้สนใจเข้าเรียนได้เพียง 15 คนเท่านั้น ทั้งที่มีนิสิตสนใจเข้าเรียนกันมาก ดังนั้นช่วงหลังทำให้คะแนนในการรับเข้าศึกษาสูงขึ้น"
       
       อย่างไรก็ตามแม้นิสิตที่สนใจจะไม่ได้เรียนสาขาวิศวกรรมยานยนต์โดยตรง ผศ.ดร.ศุภวุฒิ จันทรานุวัฒน์ อาจารย์ ประจำสาขาวิศวกรรมยานยนต์ กล่าวว่านิสิตที่สนใจก็สามารถที่จะเลือกเรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เป็นวิชาเลือกได้
       
       “ในความเป็นจริงคนอยากเรียนวิศวกรรมไม่ว่าจะสาขาอะไรก็ตาม มีจำนวนมาก แต่ก็มีข้อจำกัดทั้งในเรื่องของอุปกรณ์การเรียน สถานที่ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ด้วย แล้วเมื่อมีคนอยากเรียนเยอะแน่ล่ะก็มีการแข่งขันกันสูง คนที่ได้เรียนก็จะทำคะแนนได้สูงมาก ทีนี้เมื่อจะเลือกสาขาที่เรียนอย่างสาขาวิศวกรรมยานยนต์ เราก็ดูที่คะแนนเฉลี่ยปีหนึ่ง คนที่ทำคะแนนได้สูง 15 คนแรกก็ได้เรียนเป็นวิชาหลัก ส่วนคนอื่นๆ ก็เลือกสาขาอื่นๆ ไป แต่ก็สามารถที่จะเลือกเรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องเป็นวิชาเลือกได้”
       
       ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมากในการเรียนก็คือต้องเก่งคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ เพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียน และคนที่เรียนวิศวกรรมศาสตร์ควรจะชอบในเรื่องของกลศาสตร์ ไฟฟ้า หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรม
       
       “นิสิตปีหนึ่งควรตั้งใจกับการเรียนให้มากที่สุด เพราะถ้าความรู้พื้นฐานในชั้นปีที่หนึ่งดีแล้วการเรียนชั้นปีต่อๆ ไปก็จะง่ายขึ้น และต้องรู้ตัวเองว่ากิจกรรมกับการเรียนควรจะบาลานส์กัน ต้องดูแลตัวเอง แล้วก็จะสามารถจบการศึกษาได้ตามกำหนดเวลา”
       
       “คนที่จะเรียนวิศวกรรมศาสตร์สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องเรียนอย่างเข้าใจแบบลึกซึ้ง ไม่ใช่เรียนแบบท่องจำ เพราะการเรียนวิศวกรรมศาสตร์มักจะมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเสมอ การเรียนแบบท่องจำแต่ไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ก็อาจจะต้องรีไทร์ไปก็เป็นไปได้ เพราะท่องจำเก่งแต่ไม่เข้าใจประยุกต์ไม่เป็นก็ทำข้อสอบไม่ได้”  อาจารย์ ประจำสาขาวิศวกรรมยานยนต์ จุฬาฯ กล่าวคำแนะนำทิ้งท้าย 

มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในประเทศไทย

  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  3. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
  4. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา
  5. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร
  6. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ)
  7. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  8. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
  9. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  10. บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  11. สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม(FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  13. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง
  14. บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธรไทย-เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  15. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  16. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  17. มหาวิทยาลัยพะเยา
  18. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
  19. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
  20. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
  21. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
  22. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
  23. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
  24. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
  25. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
  26. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
  27. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
  28. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  29. มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
  30. มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
  31. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  32. มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย
  33. มหาวิทยาลัยทักษิณ
  34. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  35. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  36. มหาวิทยาลัยนเรศวร
  37. มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
  38. มหาวิทยาลัยบูรพา
  39. มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  40. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  41. มหาวิทยาลัยมหิดล
  42. มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
  43. มหาวิทยาลัยรังสิต
  44. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  45. มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
  46. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  47. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  48. มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  49. มหาวิทยาลัยศิลปากร
  50. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  51. มหาวิทยาลัยสยาม
  52. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
  53. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  54. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
  55. มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
  56. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  57. สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
  58. สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( SIIT TU )
  59. สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน
  60. สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
  61. สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย
  62. วิทยาลัยการชลประทาน สถาบันสมทบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  63. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
  64. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  65. มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ
  66. มหาวิทยาลัยนครพนม
  67. สถาบันรัชต์ภาคย์

วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปี1เรียนอะไรบ้าง?

พี่ขอแบ่งวิชาออกเป็น 4 หัวข้อหลักๆนะครับ
1.วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์   - Calculus 1
   - Calculus 2
   - Gen. Physics 1
   - Gen. Physics 2
   - Gen. Chemistry
2.วิชาเกี่ยวกับวิศวกรรมศาสตร์   - Comp. Programming
   - Drawing
   - Engineering Materials
   - Exploring Engineering World
3.วิชาปฏิบัติการ (แลปนั่นเอง)
   - Lab Phys. 1
   - Lab Phys. 2
   - Lab Chem.
4.วิชาภาษาอังกฤษ   - Exp. English 1
   - Exp. English 2
ในพาร์ทที่ 1 นี้เราจะพูดถึงวิชาที่ทุกคนจะได้เรียนในเทอม 1 กันก่อนนะครับ
มาเริ่มกันที่วิชาแรกเลยครับ

Calculus 1เป็นวิชาที่จะไม่ได้ยากเกินความสามารถน้องๆแน่นอน ซึ่งเนื้อหาที่จะเรียนในวิชานี้ก็จะค่อนข้างคล้ายกับสมัย ม.6 เลยครับ เรียนตั้งแต่พวกลิมิต หาจุดวิกฤต จุดสูงสุด ต่ำสุด ตามด้วยการดิฟต่างๆ แล้วก็ปิดท้ายด้วยเรื่อง อินติเกรต ครับ ซึ่งจะยากและซับซ้อนกว่าสมัย ม.ปลาย แน่นอน วิธีจัดการกับวิชานี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ เมื่อเริ่มเรียนน้องๆจะได้รู้จักกับ “ชีทพี่ตูน” น้องก็เพียงแค่อ่านพี่ตูนให้จบ แล้วทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียนมาตรฐาน หรือที่เรียกว่า เล่มฟ้า (เพราะมันสีฟ้า) นั่นแหละครับ ทำให้เยอะๆครับ วิชานี้อยู่ที่การฝึกฝนจริงๆ ส่วนมากรุ่นพี่ก็จะทำกันครบทุกข้อ เพราะข้อสอบก็จะออกจากเล่มฟ้านั่นแหละ เพียงเท่านี้ เกรด A วิชานี้ก็ไม่ได้ยากเกินเอื้อมแล้วครับ

Gen. Physics 1วิชานี้ค่อนข้างยากพอตัวเลยครับ แนะนำว่าให้ตั้งใจเรียนในห้องเยอะๆ อ่านสไลด์อาจารย์ ฝึกทำโจทย์จากแหล่งต่างๆ เช่น ข้อสอบเก่าของปีก่อนๆ ในห้องอาจารย์ก็จะมีการย้ำเรื่องที่ออกแน่ๆ เรื่องไหนออกเยอะ อาจารย์ก็จะบอกไว้ในห้อง เนื้อหาที่จะเรียนในช่วงก่อนมิดเทอมก็จะเป็นพวก การเคลื่อนที่ต่างๆ แรง กฎนิวตัน โมเมนต์ความเฉื่อย จุดศูนย์กลางมวล ประมาณนี้ครับ พยายามทำความเข้าใจให้เข้าใจจริงๆ จะช่วยได้มาก ส่วนช่วงไฟนอลนั้น จะได้เรียนเรื่องของ การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลฮาร์โมนิก คลื่น เทอร์โมไดนามิก ของไหล ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส และสุดท้ายน้องจะได้พบกับ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษครับ 555 น้องจะค้นพบว่าเวลาและระยะทางนั้นยืดหดได้!! สำหรับวิชานี้ น้องๆจะได้พบกับตัวช่วยที่เรียกว่า “คลิปพี่เคน” ซึ่งจะทำให้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นเยอะ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องไหนที่พี่เคนบอกว่าออกแน่ เรื่องนั้นไม่ออกครับ เพราะอาจารย์ก็ดูเหมือนกัน 555 ดังนั้นดูเพื่อความเข้าใจ แล้วทำโจทย์กันเยอะๆนะครับ

Lab Phys. 1สำหรับวิชาแลปนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรน่าลำบากใจมากมายครับ เพียงแต่เข้าเรียนให้ครบทุกครั้ง (ผมนี่ลำบากใจเลย 555) ก็จะผ่านมาได้ด้วยเกรดที่ค่อนข้างดี ส่วนใหญ่จะได้ B ขึ้นไปกันครับ ถ้าเข้าครบทุกครั้งนะ

Exp. English 1วิชานี้ก็ไม่ยากมากครับ อยู่ที่พื้นฐานของแต่ละคนเลย ในวิชานี้เราก็จะเรียนเกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ต้องใช้ในชีวิตนั่นแหละครับ ต้องเข้าทุกครั้งเพราะเช็คชื่อ พี่ๆส่วนมากเข้าไปก็หลับกันบ้าง ข้อสอบก็ค่อนข้างยากอยู่นะ สำหรับคนที่ไม่ได้เก่งอังกฤษอยู่แล้ว แต่ถ้าตั้งใจเรียนในห้องให้ดี พี่เชื่อว่า ข้อสอบนั้นไม่ได้ยากเกินไปแน่นอน (ถึงพี่จะทำไม่ค่อยได้ก็เถอะ 55)

หลังจากที่ทุกคนได้รู้จักวิชาของวิศวะฯ จุฬาฯ ปี 1 เทอมแรกมาแล้ว เรามาต่อกันที่วิชาที่จะต้องเรียนสลับเทอมกันบ้างดีกว่า อย่างที่ทราบกันว่า คณะวิศวะฯของเรานั้นคนเยอะมากกก ดังนั้นบางวิชาก็เลยสอนทุกคนในเทอมเดียวไม่ได้ เราเลยต้องเรียนสลับกันทีละครึ่งคณะครับ ซึ่งเทอมนึง จะต้องเรียน GenChem, Drawing กับ LabChem ไม่งั้นก็จะเป็นวิชา Exploring Engineering World, Material กับ Java (Comp. Programming) นะ โอเค เรามาดูกันเลย
Gen. Chemistry
สำหรับวิชานี้ เนื้อหาจะคล้ายๆ ม.ปลายมากๆครับ ใครเรียน อ.อุ๊ มาก่อนนี่จะสบายขึ้นเยอะ เนื้อหาก่อนมิดเทอม ทุกคนจะได้เรียนตั้งแต่เรื่อง โครงสร้างอะตอม ปริมาณสารสัมพันธ์ พันธะเคมี แรงระหว่างโมเลกุล ไปจนถึง ของแข็ง ของเหลว ก๊าส สารละลาย และ คอลลอยด์ เลยครับ ว่ากันว่ามิดเทอมจะยากกว่าไฟนอลพอสมควร โดยเฉพาะเรื่อง พันธะ ที่เรียนล้ำลึกกว่าม.ปลาย มาก แนะนำให้ทำความเข้าใจให้ได้ครับ สงสัยอะไร ถามอาจารย์หลังจบคาบเลย สำหรับมิดเทอมแนะนำให้เข้าเรียนนะ เพราะไม่มีตัวช่วยเท่าไหร่ มีแต่อาจารย์กับคลิปที่อาจารย์อัดไว้ ซึ่งส่วนมากเสียงจะยิ่งกว่าหนังซูมอีกครับ 555 ส่วนไฟนอลนั้น ส่วนใหญ่จะบอกว่าง่ายกว่ามิดเทอมนะ แต่จากที่เจอมาแล้ว มันก็ยากอยู่ดีนั่นแหละ ที่สำคัญช่วงหลังมิดเทอมนั้นจะมีควิซในคาบ ทำให้ต้องแหกขี้ตาตื่นมาหลับในห้องเรียนแทบจะทุกคาบ (กรรม 555) แต่วิชานี้อาจารย์สอนดีมากครับ เข้ามาถึงหลับแต่ก็ยังพอรู้เรื่องบ้าง สำหรับเรื่องการตัดเกรดของวิชานี้ โอกาส F ยากมากครับ เพราะมีคะแนนทำแบบฝึกหัดในเน็ตกับควิซในห้องช่วยถึง 20 คะแนน (ตัด F ที่ 33 หรือ 40 % อันนี้ไม่แน่ใจ) ดังนั้นทำข้อสอบให้ได้บ้าง ก็น่าจะผ่านพ้นกับเคมีตัวสุดท้ายของชีวิตไปได้ ส่วนถ้าใครอยากจะฟัน A วิชานี้ ก็ต้องบอกว่า ค่อนข้างยากซัก (ไม่) นิดนึง ปีนึงเท่าที่รู้มีคนได้ A น้อยมากๆครับ แต่คนๆนั้นอาจจะอ่านตรงนี้อยู่ก็ได้ ;)
Materials
คิดว่าหลังจากอ่านวิชาแรกมา หลายคนคงเหนื่อยกันแล้ว 55 ยาวเกิน พิมพ์เพลินไปหน่อย สำหรับวิชานี้จะเรียนเกี่ยวกับวัสดุต่างๆ ตั้งแต่ พลาสติก เหล็ก ไม้ คอนกรีต (อ่านว่า คอน-กรีด นะ 555) ข้อสอบก็ไม่ได้ยากมาก เรียนสบายๆ อ่านสรุป อ่านสไลด์ ดูข้อสอบเก่า เกรดก็จะออกมาสวยหรูอย่างง่ายดาย
Drawing
สำหรับวิชานี้ กล่าวกันว่า ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคนเลย 555 ที่เรียนก็จะเกี่ยวกับ การเขียนแบบทางวิศวกรรม ต้องมองภาพออก หลักๆก็คือ เอาภาพแต่ละด้านมาวาดใหม่ เป็นสามมิติ ถ้าถนัดตรงนี้ก็สบายเลยครับ แต่สำหรับบางคนนี่บอกว่า มองยังไงก็มองไม่ออก อันนี้ต้องใช้พรแสวงเข้าช่วย ฝึกเยอะๆ ผ่านโจทย์มาเยอะๆ ก็จะทำได้ดีขึ้นครับ หลังจากวาดด้วยมือไปแล้ว ก็จะมาใช้โปรแกรมกันบ้าง โปรแกรมที่ว่าคือ AutoCad นั่นเอง ก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย ทำตามที่อาจารย์บอก รับโจทย์มา ทำส่งท้ายคาบ กลับบ้านมืดค่ำเพราะทำไม่เสร็จ (สรุปว่ายากหรือไม่ยาก) ส่วนเรื่องเกรดนี่มันก็แล้วแต่คนเลยครับถ้าถนัดทำได้ ก็ A ง่ายๆ ถ้าไม่ถนัดก็ต้องสู้หน่อย
Java หรือ Comp. Programming
ที่เรียกว่า Java เพราะเราจะเรียนกันแค่ Java (ตัวเดียวก็แย่แล้ว 555) วิชานี้ก็แล้วแต่คนอีกเช่นกันครับ บางคนก็เกลียดไปเลยก็มี บางคนก็ชอบ บางคนก็ชอบแต่ทำไม่ได้ บางคนก็ทำไม่ได้แต่ชอบ เอ๊ะ ยังไง เอาเป็นว่า สำหรับคนที่ชอบจะเป็นอะไรที่ง่ายมากครับ แต่คนที่ไม่ชอบนี่ลำบากเลย คะแนนมาจากการสอบเป็นส่วนใหญ่ แล้วข้อสอบก็ไม่ง่ายเลย เริ่มจะงงกับคนเขียนละใช่มั้ย สรุปมันง่ายหรือไม่ง่าย 555 คือมันแล้วแต่คนเลย แต่ไม่ว่ายังไง ถ้าขยันตั้งใจทำความเข้าใจ ยังไงก็จะผ่านไปได้แน่นอนครับ
Lab Chem.
วิชาต่อมา เป็นวิชาที่เหนื่อยที่สุด เหนื่อยสุดยอด แลปร้อนโฮก ไม่มีแอร์ ทำแลป 3 ชม. ออกมานั่งเขียนรายงานหน้าห้องกับพื้น อีกเป็นชม. เพราะแลปปิด อาจารย์กลับ แต่เรายังต้องเขียนให้เสร็จแล้วส่งไว้ที่ตู้ จากนั้น หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่าง สิ่งที่เคยคิดว่าจะทำหลังเลิกเรียนก็จะลืมไปสิ้น อยากจะกลับบ้านโอนลี่ ไม่ไหวแล้ว 55 เป็นวิชาที่ “ดูดพลังงาน” ได้อย่างสุดยอด ทั้งร่างกายและจิตใจ การเรียนก็จะ แบ่งเป็นการทดลอง 1-10 ก็ทดลองกันไปเรื่อยๆ การทดลองจะแน่นมาก ต้องรีบทำ มีควิซทุกต้นคาบ ห้ามมาสายไม่งั้นอดทำ อดคะแนน เน้อ เรียนไปเรื่อยๆ จะมีสอบทดลองสองสามครั้ง อันนี้แหละโหด คะแนนเยอะมาก แถมไม่ง่ายเลย ถ้าเทียบกับเวลาที่ให้มา วิ่งกันวุ่นแลป ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีกับวิชานี้ครับ
Exploring Engineering World
มาถึงวิชาสุดท้ายของพาร์ทนี้กันแล้ว เป็นวิชาสบายๆ นั่งหลับในห้องประชุม ตื่นมาเป็นครั้งคราว อาจารย์ก็จะบรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับวิศวกรรมกับการแก้ปัญหาต่างๆบนโลกนี้ แบบกว้างมากๆ บรรยายไปสักพักก็จะมีคำถาม ให้เราตอบโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Clicker เป็นเหมือนรีโมต กดตัวเลข/ตัวอักษร ตอบ แต่ละคนก็จะได้รับ 1 อันก่อนเข้าห้อง พอปลายๆเทอม ก็จะมีแบ่งกลุ่มคิดโครงงานตามความสนใจของตัวเองและเพื่อนๆ เช่น คิดแอพเรียกแท็กซี่ คิดวิธีแก้ปัญหาน้ำท่วม หุ่นยนต์กู้ภัย อะไรพวกนั้น แล้วแต่ที่สนใจเลย จากนั้นก็เอามานำเสนอหน้าชั้นเพื่อคัดเลือกทีมเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งทีมสุดท้ายที่ชนะเลิศก็จะมีเงินให้ไปทำจริงๆด้วย ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับคนที่คิดจะทำอะไรใหม่ๆ เกรดวิชานี้ก็ เรียกได้ว่า “เข้าครบ จบเอ” แต่ไม่รู้ทำไม เพื่อนหลายคนก็ได้ บี มา ทั้งที่เข้าครบกว่าคนได้ เอ อีก ก็เลยมีคนเรียกว่า “วิชาสุ่มเกรด” อยู่เหมือนกัน 555 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ต้องอ่านอะไรให้เหนื่อยครับ

ภาควิชาและหลักสูตรที่เปิดสอน วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering) ประกอบด้วย ภาควิชาและหน่วยงานทำหน้าที่บริหารจัดการหลักสูตรและการเรียนการสอนที่อยู่ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของคณะ ดังนี้
  • 12 ภาควิชา ประกอบด้วย     
  1. วิศวกรรมโยธา (Civil Engineering)
  2. วิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)
  3. วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering)
  4. วิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)
  5. วิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering)
  6. วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม (Mining and Petroleum Engineering)
  7. วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
  8. วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering)
  9. วิศวกรรมโลหการ (Metallurgical Engineering)
  10. วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)
  11. วิศวกรรมนิวเคลียร์ (Nuclear Engineering)
  12. วิศวกรรมแหล่งน้ำ (Water Resources Engineering)
  • สำนักบริหารหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ
  • ศูนย์ระดับภูมิภาคทางวิศวกรรมระบบการผลิต
  • หน่วยบูรณาการศาสตร์ด้านวิศวกรรม
หลักสูตรที่คณะเปิดสอน ปีการศึกษา 2558 ได้แก่
  1. หลักสูตรปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) Bachelor of Engineering (B.Eng.) มี 17 สาขาวิชา ประกอบด้วย
    • วิศวกรรมโยธา (Civil Engineering)
    • วิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)
    • วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering)
    • วิศวกรรมเรือ (Naval Architecture and Marine Engineering)
    • วิศวกรรมยานยนต์ (Automotive Engineering)
    • วิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)
    • วิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering)
    • วิศวกรรมทรัพยากรธรณี (Georesources Engineering)
    • วิศวกรรมปิโตรเลียม (Petroleum Engineering)
    • วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
    • วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering)
    • วิศวกรรมโลหการและวัสดุ (Metallurgical and Materials Engineering)
    • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)
    • วิศวกรรมนาโน (หลักสูตรนานาชาติ) (Nano-Engineering)
    • วิศวกรรมการออกแบบและการผลิตยานยนต์ (หลักสูตรนานาชาติ) (Automotive Design and Manufacturing Engineering)
    • วิศวกรรมอากาศยาน (หลักสูตรนานาชาติ) (Aerospace Engineering)
    • วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร (หลักสูตรนานาชาติ) (Information and Communication Engineering)
  1. หลักสูตรปริญญาโทมี 20 สาขาวิชา ประกอบด้วย หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) 15 สาขาวิชา และหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) 5 สาขาวิชา ดังนี้
  • วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) Master of Engineering (M.Eng.) 15 สาขาวิชา ประกอบด้วย
    • วิศวกรรมโยธา (Civil Engineering)
    • วิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)
    • วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering)
    • วิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)
    • วิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering)
    • วิศวกรรมทรัพยากรธรณีและปิโตรเลียม (หลักสูตรนานาชาติ) (Georesources and Petroleum Engineering)
    • วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
    • วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering)
    • วิศวกรรมโลหการและวัสดุ (Metallurgical and Materials Engineering)
    • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)
    • วิศวกรรมนิวเคลียร์ (Nuclear Engineering)
    • วิศวกรรมแหล่งน้ำ(Water Resources Engineering)
    • การจัดการทางวิศวกรรม (หลักสูตรนานาชาติ) (Engineering Management)
    • วิศวกรรมชีวเวช (หลักสูตรสหสาขาวิชา) (Biomedical Engineering)
    • วิศวกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ (Defense and Engineering Technology)
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) Master of Science (M.Sc.) 5 สาขาวิชา ประกอบด้วย
    • วิทยาศาสตรคอมพิวเตอร์ (Computer Science)
    • วิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering)
    • เทคโนโลยีนิวเคลียร์ (Nuclear Technology)
    • วิศวกรรมชีวเวช (หลักสูตรสหสาขาวิชา) (Biomedical Engineering)
    • ระบบสารสนเทศปริภูมิทางวิศวกรรม (Spatial Information System  in  Engineering) *
  1. หลักสูตรปริญญาเอกมี 12 สาขาวิชา ประกอบด้วย หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต (วศ.ด.) 11 สาขาวิชา และหลักสูตรวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต (วท.ด.) 1 สาขาวิชา ดังนี้
  • วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต (วศ.ด.) Doctor of Philosophy (Ph.D.) 11 สาขาวิชา ประกอบด้วย
    • วิศวกรรมโยธา (หลักสูตรนานาชาติ) (Civil Engineering)
    • วิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)
    • วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering)
    • วิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)
    • วิศวกรรมเคมี (Chemical Engineering) **
    • วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
    • วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering)
    • วิศวกรรมโลหการและวัสดุ (Metallurgical and Materials Engineering) **
    • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)
    • วิศวกรรมนิวเคลียร์ (Nuclear Engineering) **
    • วิศวกรรมแหล่งน้ำ(Water Resources Engineering) **
  • วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต (วท.ด.) Doctor of Philosophy (Ph.D.) 1 สาขาวิชา ประกอบด้วย
    • วิศวกรรมชีวเวช (หลักสูตรสหสาขาวิชา) (Biomedical Engineering)
หมายเหตุ
*           สาขาวิชาระบบสารสนเทศปริภูมิทางวิศวกรรม จะปิดหลักสูตรตั้งแต่ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไป
**          หลักสูตรระดับปริญญาเอก สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี วิศวกรรมโลหการและวัสดุ วิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมนิวเคลียร์ ใช้ชื่อปริญญาภาษาอังกฤษว่า Doctor of Engineering (D.Eng.)